1. การเปิดกรีด |
1.1 โดยทั่วไปต้นยางเปิดกรีดได้เมื่ออายุประมาณ 7 ปีครึ่ง ขนาดเส้นรอบต้นไม่ต่ำกว่า 50 เซนติเมตร ความ
สูง 150 เซนติเมตร จากพื้นดิน |
|
|
1.2 ต้นยางในสวนต้องมีขนาดเปิดกรีดได้มากกว่า 70 % ของยาง |
|
|
1.3 เปิดกรีดครึ่งลำต้นที่ระดับความสูง 150 เซนติเมตร จากพื้นดิน รอยกรีดทำมุม 30 องศากับแนวระนาบ
และเอียง จากซ้ายบน ลงมาขวาล่าง |
|
|
1.4 ติดรางรองรับน้ำยาง ห่างจากรอยกรีดด้านหน้าลงมาประมาณ 30 เซนติเมตร และติดลวด รับถ้วยน้ำยาง
ให้ห่าง จากรางรับน้ำยางลง มาประมาณ 10 เซนติเมตร |
|
|
1.5 ถ้าไม่กรีดยางควรคว่ำถ้วยไว้เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรก ตกลงไปใน ถ้วยรับน้ำยาง |
|
|
1.6 ควรเริ่มกรีดยางตั้งแต่ตอนเช้า ประมาณ 06.00-08.00 น. เพราะจะทำให้ปฏิบัติงานได้สะดวก เนื่องจาก
มองเห็นชัดเจนกว่ากลางคืนและผลผลิตที่ได้ใกล้เคียงกับการกรีดในตอนกลางคืน |
|
|
2. ประเภทของการกรีดยาง |
2.1 การกรีดใน 3 ปีแรก
- กรีดครึ่งต้นวันเว้นสองวัน (1/2 S d/ 3) ใช้กับยางทุกพันธุ์
- กรีดครึ่งต้นวันเว้นวัน (1/2 S d/ 2) ยกเว้นพันธุ์ RRIM 628 PB 28/59 และ PB5/63
- กรีดครึ่งต้นวันเว้นสองวัน (1/2 S d/ 3) ร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง ความเข้มข้น 2.5 % เหมาะ
สำหรับยางที่ให้ ผลผลิตต่ำใน ระยะแรกของการกรีด |
|
|
2.2 การกรีดยางหลังจาก 3 ปีไปแล้ว
- กรีดครึ่งต้นวันเว้นสองวัน (1/2 S d/ 3) เหมาะกับพันธุ์ที่เป็นโรคเปลือกแห้งได้ง่าย
- กรีดครึ่งต้นวันเว้นวัน (1/2 S d/ 2) ใช้กับยางทุกพันธุ์ ยกเว้นพันธุ์ที่เป็นโรคเปลือกแห้งได้ง่าย
- กรีดครึ่งต้นวันเว้นสองวัน (1/2 S d/ 3) ร่วมกับสารเคมีเร่งน้ำยาง เหมาะกับยางที่ให้ผลผลิตต่ำ |
|
|
2.3 การกรีดเปลือกงอกใหม่
- กรีดครึ่งต้นวันเว้นวัน (1/2 S d/ 2) ใช้กับยางทุกพันธุ์
- กรีดครึ่งต้นวันเว้นสองวัน (1/2 S d/ 3) ใช้กับยางพันธุ์ที่เป็นโรคเปลือกแห้งได้ง่าย
- กรีดครึ่งต้นวันเว้นสามวัน (1/2 S d / 4) หรือกรีดครึ่งต้นวัน เว้นสองวัน (1/2 S d/ 3) ร่วมกับ
สารเคมี เร่งน้ำยาง |
|
|
2.4 การกรีดชดเชย
เป็นการกรีดยางทดแทนวันกรีดที่สูญเสียในระหว่างฤดูฝน หรือท้องที่ที่มีฝนตกมาก การกรีดชดเชยเป็น
การกรีดติดต่อกันเป็นวันที่สอง หลังจากที่ฝนตกติดต่อกันหลายวัน เหมาะสำหรับการกรีดวันเว้นวัน และวัน
เว้นสองวัน ทั้งนี้เพื่อรักษาระดับผลผลิตไว |
|
|
3. การใช้ระบบกรีดยางพาราที่เหมาะสม |
3.1 ไม่มีการใช้ระบบกรีดถี่ ทำให้อายุกรีดของต้นยางสั้นลง |
|
|
3.2 ไม่มีการกรีดต้นยางไม่ได้ขนาดตามมาตรฐาน โดยเปิดกรีดต้นยางที่มีขนาดลำต้นยางต่ำกว่า 50
เซนติเมตร ซึ่งต้นยางที่มีขนาดลำต้น 45 และ 40 เซนติเมตร จะให้ผลผลิตเพียง 76 และ 65 เปอร์เซ็นต์ของ
ยางที่ได้ขนาดแล้ว |
|
|
3.3 ไม่สามารถจะใช้สารเคมีเร่งน้ำยางควบคู่ได้ หากใช้ระบบกรีดถี่ |
|
|
3.4 เจ้าของสวนไม่ควรจ้างแรงงานกรีดฝีมือต่ำเมื่อขาดแคลนแรงงาน |
|
|
4. การเก็บน้ำยางและการรักษาน้ำยางสด |
4.1 เมื่อกรีดยางแล้ว น้ำยางก็จะไหลไปตามรอยที่ทำไว้ผ่านลิ้นรองน้ำยางและไหลลงถ้วยรองรับน้ำยางในที่สุด
ภายหลังจากกรีดยางไปแล้วให้ทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง |
|
|
4.2 เก็บน้ำยางในถ้วยแล้วเทลงไปในถังหรือปี๊บระวังไม่ให้ถ้วยน้ำยางและถังสกปรก |
|
|
4.3 ในการขนส่งผลผลิตยางไปขายใช้พาหนะที่เหมาะสมและระมัดระวังในการบรรทุกยาง |
|
|
5. ปัจจัยที่เกษตรกรชาวสวนยางควรคำนึงถึงในเทคนิคการกรีดยาง |
5.1 ความลึกของการกรีด: การกรีดให้ได้น้ำยางมากจึงควรกรีดให้ใกล้เยื่อเจริญมากที่สุด |
|
|
5.2 ขนาดของงานกรีด: ปกติการกรีดครึ่งลำต้น คนกรีดคนหนึ่งสามารถกรีดได้ 450-500 ต้นต่อวัน และการ
กรีด และการกรีด 1/3 ของลำต้น คนกรีดคนหนึ่งสามารถกรีดได้ 650-700 ต้นต่อวัน |
|
|
5.3 เวลาที่เหมาะสมสำหรับกรีดยาง: เวลากลางคืนเนื่องจากความเด่นของเซลล์ในเวลากลางคืนจะมาก |
|
|
5.4 ความสิ้นเปลืองเปลือก: ความสิ้นเปลืองเปลือกในรอบปีของการกรีดวันเว้นวัน (d/2) คือ ร้อยละ 100 การ
กรีดวันเว้น 2 วัน สิ้นเปลืองเปลือกร้อยละ 75 และการกรีดวันเว้น 3 วัน สิ้นเปลืองเปลือกร้อยละ 60 การกรีด
2 เว้นวัน สิ้นเปลืองเปลือกร้อยละ 140 การกรีด 3 วันเว้นวัน สิ้นเปลืองร้อยละ 150 และการกรีดทุกวัน
สิ้นเปลืองเปลือกร้อยละ 190 |
|
|
5.5 ความคมของมีด: มีดกรีดยางควรลับให้คมอยู่เสมอ เพราะจะทำให้ตัดท่อน้ำยางดีขึ้นและสิ้นเปลืองเปลือก
น้อยกว่าการใช้มีดกรีดยางที่ไม่คม |
|
|