1. ท่านมีการบริหารและจัดการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และอัตราการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อลดต้นทุน (A6C1) |
|
|
2. กิจกรรมเสริมรายทั้งกิจกรรมการเกษตร (พืชแซมยางพาราและพืชร่วมยางพารา) และกิจกรรมนอกภาค
เกษตรควบคู่กับการทำสวนยางพารา (A6C2) |
|
|
3. ท่านใส่ปุ๋ยตามการแนะนำจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และกรมส่งเสริมการเกษตรยางสม่ำเสมอ
(A6C3) |
|
|
4. ท่านมีแผนและการดำเนินการจัดการบรรเทา ฟื้นฟูผลกระทบต่อคุณค่าสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นตามความ
เหมาะสมของขนาดพื้นที่, ความละเอียดในการจัดการสวนยางพารา (A6C4) |
|
|
5. ในการจัดการสวนยางท่านได้ดำเนินการออกแบบภูมิทัศน์ (ทางเดินแหล่งน้ำ พื้นที่ริมฝั่งน้ำและการเชื่อมต่อ
เป็นต้น) และเอกสารแสดงผลกระทบต่อพื้นที่การจัดการสวนยางพารา ในช่วงการก่อสร้างสาธารณูปโภค
(A6C5) |
|
|
6. ในการจัดการสวนยางท่านได้ดำเนินการตามแผนและมาตรการฟื้นฟู ป้องกันและบรรเทาผลกระทบจาก
การจัดการสวนยางที่มีต่อทางเดิน น้ำ แหล่งน้ำ พื้นที่ริมฝั่งน้ำ และการเชื่อมต่อ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ รวมถึง
ปริมาณและคุณภาพน้ำ (A6C6) |
|
|
7. ในการจัดการสวนยางท่านได้ดำเนินการจัดทำแผนขอบเขตที่ชัดเจนบนแผนที่และขั้นตอนการออกแบบภูมิ
ทัศน์จะ ต้องได้รับการป้องกันผลกระทบตามวิถีทางธรรมชาติตามความเหมาะสมของขนาดพื้นที่สวนยางพารา
(A6C7) |
|
|
8. ท่านมีหรือดำเนินการระบบการคุ้มครอง อนุรักษ์ และป้องกันชนิดพันธุ์พืชและสัตว์หายากประจำถิ่น ใกล้
สูญพันธุ์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติและลักษณะทางพันธุกรรม (A6C8) |
|
|
9. ในพื้นที่ที่สวนยางท่านตั้งอยู่มีแผนหรือกิจกรรมการปกป้องและฟื้นฟู แหล่งตัวแทนระบบนิเวศต่าง ๆ (เช่น
พื้นที่วางไข่ และพื้นที่หากิน) และกำหนดเขตพื้นที่อนุรักษ์และพื้นที่ป้องกันตามความเหมาะสมของขนาดพื้นที่
สวนยางพารา (A6C9) |
|
|
10. ในพื้นที่ที่สวนยางท่านตั้งอยู่มีการส่งเสริมและปรับปรุง คุณค่า การดูแลรักษา ไม่ถูกรบกวน ในระบบนิเวศ
ในประเด็น ได้แก่ การสืบพันธุ์ตามธรรมชาติ และกระบวนการทดแทนทางธรรมชาติของสวนยางพารา ความ
หลากหลายทางด้านพันธุกรรม, ชนิดพันธุ์ และระบบนิเวศและ วงจรธรรมชาติ ที่มีผลต่อผลิตผลของระบบ
นิเวศ (A6C10) |
|
|
11. ชุมชนมีการกำหนดแนวทางการจัดการ ประเมิน และติดตามควบคุมการพังทะลายของดิน, การลดความ
เสียหายที่เกิดกับสวนยางพาราในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต, การก่อสร้างถนนสวนป่าและขบวนการก่อสร้างอื่น ๆ
และการป้องกันทรัพยากรแหล่งน้ำต่าง ๆ (A6C12) |
|
|
12. ในการจัดการสวนยางท่านได้รับการพัฒนา ความรู้ และปลูกฝังการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมการจัดการ
สวนยางพารา ได้แก่ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี การปฏิบัติตามข้อตกลงและข้อสัญญาระหว่างประเทศ
เครื่องมือที่ปลอดภัยและการป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพส่งเสริมและสภาพแวดล้อม (A6C13) |
|
|
13. ในการจัดการสวนยางท่านมีแผน กิจกรรม กระบวนการหรือแนวทางในการ การควบคุม การใช้สารเคมี
ในการกำจัดวัชพืชและอัตราปุ๋ยและไม่ใช้สารเคมีที่ไม่ได้รับอนุญาติตามกฎหมายไทยและสากลประเด็นที่น่าจะ
เป็นตัวชี้วัด อัตราและสูตรการใช้ปุ๋ยเคมี (A6C14) |
|
|
14. ในการจัดการสวนยางของท่าน ท่านได้ดำเนินการกำจัดสารเคมีที่ใช้แล้ว, สิ่งบรรจุภาชนะต่าง ๆ, ของเสีย
จากสารอนินทรีย์ที่เป็นของเหลวและของแข็งต่าง ๆ รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นด้วยวิธีที่
เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของพื้นที่จัดการสวนยางพารานั้น ๆ (A6C15) |
|
|
15. ในการจัดการสวนยางท่านได้ใช้ข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมทางด้านชีวภาพในการจัดการสวนยางพาราและ
ข้อมูลการลดผลกระทบและการติดตามประเมินผลอย่างเข้มงวดและต้องสอดคล้องกับกฎหมายแห่งชาติและ
ข้อตกลงระหว่างประเทศที่ได้กระทำไว้ และระบุไว้ในเอกสารหรือหนังสือหรือคำรับรองเกี่ยวกับการนำ
ขบวนการทางด้านพันธุกรรมมาใช้ในการควบคุม (A6C16) |
|
|
16. ในพื้นที่ชุมชนที่สวนยางท่านตั้งอยู่ ไม่มีผลกระทบที่เกิดขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงและเกิดผลกระ
ทบกับสภาพแวดล้อมเกี่ยวกับการนำพืชและสัตว์ต่างถิ่นเข้ามาปลูกในสวนยางพารา โดยไม่ทำให้พื้นที่สวนยาง
แปรสภาพ (A6C17) |
|
|
17. ในพื้นที่ชุมชนที่สวนยางท่านตั้งอยู่ มีผลกระทบการแปรสภาพสวนยางจากการนำพืชและสัตว์ต่างถิ่นเข้า
มาปลูกในสวนยางพารา ได้แก่ การแปรสภาพจากป่าไปเป็นพื้นที่สวนยางพารา หรือพื้นที่การใช้ประโยชน์ต่าง
ๆ จะต้องไม่เกิดขึ้นเพิ่มเติมอีกยกเว้นในสภาพพื้นที่ที่มีการแปรสภาพเองตามธรรมชาติ การแปรสภาพจะต้อง
จ ากัดขอบเขตและสัดส่วนที่แน่นอน และการแปรสภาพ จะไม่เกิดขึ้นกับพื้นที่ที่มีคุณค่าสูงทางด้านการอนุรักษ์
(A6C18) |
|
|
18. ในการจัดการสวนยางของท่านท่านมีแผน กิจกรรม หรือกระบวนการเกี่ยวกับ การควบคุม การใช้ปุ๋ย
อินทรีย์ และประวัติและวิธีการเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ในประเด็นดังนี้อัตราการใช้ปุ๋ย ปลูกพืชแซม
ยาง (ต้นยางพาราอายุ 1-3) ปลูกพืชร่วมยาง (ต้นยาง < 3 ปี) (A6C19) |
|
|
19. ท่านมีการจัดการของเสียที่เกิดจากการเก็บเกี่ยว การเตรียมผลผลิตยางและผลิตน้ำยางที่ไม่มีผลกระทบ
ต่อทรัพยากรดิน แหล่งน้ำ และคุณค่าของสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ดำเนินการและในชุมชนท้องถิ่น (A6C21) |
|
|
20. ท่านมีการประเมินและติดตามผลกระทบจากกิจกรรมการจัดการที่อาจมีต่อคุณค่าทางสิ่งแวดล้อมทั้งใน
ปัจจุบันและอนาคต และระบุความเสี่ยงต่อคุณค่าทางสิ่งแวดล้อม และผู้จัดการสวนยางต้องดำเนินการก่อนที่
จะเริ่มกระทำกิจการใด ๆ ที่อาจก่อความเสียหายต่อพื้นที่ (A6C22) |
|
|
21. ในชุมชนที่สวนยางท่านตั้งอยู่มี แผน มาตรการ และปฏิบัติตามแผนการจัดการ เพื่อป้องกันผลกระทบเชิง
ลบ และปกป้องคุณค่าทางสิ่งแวดล้อมไม่ให้เกิดความเสียหายลุกลาม บรรเทา หรือฟื้นฟู (A6C23) |
|
|
22. ในการจัดการสวนยางของท่านส่งผลกระทบที่อาจมีต่อชนิดพันธุ์พืชและสัตว์หายากและถูกคุกคาม
สถานภาพ การอนุรักษ์ และแหล่งที่อยู่อาศัย (A6C25) |
|
|
23. ในการจัดการสวนยางของท่านท่านได้มีการปกป้อง อนุรักษ์และฟื้นฟูในพื้นที่ตัวแทนระบบนิเวศดั้งเดิม
ของระบบนิเวศประจำถิ่นให้กลับสู่สภาพธรรมชาติ โดยขนาดของพื้นที่ตัวแทนระบบนิเวศดั้งเดิม รวมถึง
เครือข่ายพื้นที่เพื่อการอนุรักษ์รวมกันมีขนาดไม่น้อยกว่า 10% ของขนาดพื้นที่สวนยางที่ขอการรับรอ
(A6C26) |
|
|
24. ในการจัดการสวนยางท่านมีกิจกรรมการจัดการ การรักษา ส่งเสริม และฟื้นฟูซึ่งสังคมพืชและคุณสมบัติ
ของแหล่งที่อยู่อาศัยที่พบในระบบนิเวศดั้งเดิมของพื้นที่สวนยางที่ขอการรับรอง (A6C27) |
|
|
25. ในการจัดการสวนยางท่านมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพในจัดการควบคุมกิจกรรมการล่า ดักจับ เก็บหา
ครอบครอง เพื่อให้มั่นใจว่าพันธุ์พื้นเมืองความหลากชนิด และการแพร่กระจาย ให้ดำรงอยู่ได้ (A6C28) |
|
|
26. ในชุมชนที่มีสวนยางตั้งอยู่มีกิจกรรม แผนหรือมาตรการ เกี่ยวกับการรักษาและฟื้นฟูความหลากหลาย
ของการเชื่อมต่อกันอย่างลงตัว (mosaic) ชนิดของพันธุ์ ขนาด อายุ อาณาเขต และวงจรการสืบต่อพันธุ์ ที่
เหมาะสมกับภูมิทัศน์ (A6C29) |
|
|
27. ในการจัดการสวนยางของท่านมีการการจัดการสวนและ ลักษณะพื้นที่สวนยางที่ไม่ได้แปรสภาพป่า
ธรรมชาติและไม่มีผลกระทบในไม่ทำลายหรือคุกคามต่อคุณค่าด้านการอนุรักษ์สูง (HCV) หรือไม่ใช้พื้นที่หรือ
ทรัพยากรที่จำเป็นใด ๆ ในการรักษาหรือเสริมสร้าง คุณค่าด้านการอนุรักษ์สูง (HCV) (A6C30) |
|
|
28. การเปลี่ยนแปลงจากป่าธรรมชาติเป็นสวนป่าก่อนพฤศจิกายน พ.ศ. 2537ท่านซึ่งเป็นผู้จัดการสวนยางที่
ขอรับรองไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ทั้งทางตรงและทางอ้อม (A6C31) |
|
|
29. ป่าธรรมชาติถูกเปลี่ยนแปลงเป็นสวนยางพาราตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2537 มีขนาดน้อยกว่า
5% ของพื้นที่สวนยางที่ขอการรับรองทั้งหมด (A6C32) |
|
|