แบบฟอร์ม FSC6-6

การประเมินและติดตามผลกระทบจากกิจกรรมการจัดการที่อาจมีต่อคุณค่าทางสิ่งแวดล้อม(A6C22)
หัวข้อ/ประเด็น ความคิดเห็น
ปฏิบัติ ไม่ปฏิบัติ
ด้านดิน
1. กระบวนการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลของการจัดการสวนยางพาราต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นในพื้นที่
เสี่ยงต่อการพังทลายของหน้าดิน
2. ทำการตรวจสอบผลกระทบที่มีผลต่อการพังทลายของดิน
3. บันทึกผลการตรวจติดตามไว้ทุกครั้งและนำผลการตรวจติดตามและแก้ไขนั้นไปปรับปรุงในแผนการจัดการ
ด้านแหล่งน้ำ
1. แหล่งน้ำที่อยู่ใกล้พื้นที่สวนยาง ถือเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการจัดการ
สวนยาง ดังนั้นจะต้องมีกระบวนการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
2. ท าการตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้สารเคมีที่มีผลกระทบต่อแหล่งน้ำและสัตว์น้ำ ซึ่งในกรณี
ที่พื้นที่สวนยางอยู่ใกล้แหล่งน้ำและมีการใช้สารเคมีมากกว่า 2 ครั้ง/เดือน ต้องทำการสุ่มตรวจคุณภาพของน้ำ
อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ซึ่งต้องครอบคลุมทั้งช่วงฤดูแล้งและฤดูฝน (กรมควบคุมมลพิษ, 2547) โดยเกษตร
สามารถขอคำแนะนำหรือความอนุเคราะห์จากหน่วยงานการศึกษาหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง
3. บันทึกผลการตรวจติดตามไว้ทุกครั้งและนำผลการการตรวจติดตามและวิธีแก้ไขนั้นไปปรับปรุงในแผนการ
จัดการ
4. ไม่สร้างผลกระทบต่อแหล่งน้ำโดยการเพิ่มขึ้นตะกอนที่เกิดจากการทำไม้ของผู้ประกอบการ เช่น การทิ้งเศษ
ไม้ เศษเหลือจากการตัดแต่งไม้ ลงไปยังแหล่งน้ำ เป็นต้น
ด้านสารเคมี
1. ทำการตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้สารเคมี ในกรณีที่พื้นที่สวนยางอยู่ใกล้แหล่งน้ำ
และมีการใช้สารเคมีมากกว่า 2 ครั้ง/เดือน ต้องท าการสุ่มตรวจคุณภาพของน้ำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ซึ่งต้อง
ครอบคลุมทั้งช่วงฤดูแล้งและฤดูฝน (กรมควบคุมมลพิษ, 2547) โดยเกษตรกรสามารถขอคำแนะนำหรือความ
อนุเคราะห์จากหน่วยงานการศึกษาหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องได้
2. บันทึกผลการตรวจติดตามไว้ทุกครั้งและนำผลการการตรวจติดตามและวิธีแก้ไขนั้นไปปรับปรุงในแผนการ
จัดการ
3. ผู้ปฏิบัติการต้องมีความระมัดระวัง และสามารถจัดการแก้ไขเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการรั่วไหลของน้ำมัน
สารเคมี