แบบฟอร์ม FSC6-7

การจัดการผลกระทบเชิงทางสิ่งแวดล้อม (A6C23)
หัวข้อ/ประเด็น ความคิดเห็น
ปฏิบัติ ไม่ปฏิบัติ
การจัดการและลดผลกระทบแหล่งน้ำ
1. แหล่งน้ำขนาดใหญ่หรือแหล่งน้ำถาวร เช่น แม่น้ำ ให้เว้นระยะห่างจากริมตลิ่งอย่างน้อย 3 เมตร และ/หรือ
ตามข้อตกลงภายในกลุ่ม โดยกำหนดให้พื้นที่ที่เว้นระยะไว้เป็นแนวกันชน (Buffer Zone) ซึ่งเกษตรกรควร
ปล่อยให้มีการปกคลุมของพันธุ์ไม้ดั้งเดิม หรือปลูกพันธุ์ไม้อื่น ๆ เสริมและบันทึกในสมุดประจำตัวของสมาชิก
รายนั้น ๆ
2. กรณีที่เกษตรกรหรือสมาชิกปลูกต้นยางชิดริมตลิ่งไปก่อนแล้ว ให้ส่งเสริมปลูกไม้อื่นลงไปเพื่อช่วยยึดหน้าดิน
ไม่พังทลาย โดยสามารถกรีดน้ำยางได้ตามปกติ แต่จะกันพื้นที่ส่วนนั้นไว้เป็นแนวกันชน (Buffer Zone) หรือ
พื้นที่ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ หากมีการตัดฟันให้ปฏิบัติตามวิธีการตัดฟันในพื้นที่ที่ติดแหล่งน้ำลำธาร
3. ทำการฝึกอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับการจัดการสวนยางในพื้นที่ติดแหล่งน้ำลำธารและเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อ
แหล่งน้ำ
3.1 ไม่ทิ้งของเสียลงแหล่งน้ำและทางระบายน้ำสาธารณะ
3.2 บำบัดน้ำเสียขั้นต้นก่อนระบายลงแหล่งน้ำหรือท่อระบายน้ำ
3.3 ลดหรือหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีในกิจกรรมทางการเกษตรและในครัวเรือน
3.4 สำรวจเพื่อลดปริมาณน้ำเสียของแต่ละขั้นตอนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม
3.5 สร้างจิตสำนึกของประชาชนในตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาคุณภาพแหล่งน้ำ
การจัดการและลดผลกระทบทางดิน
1. ไม่แผ้วถางป่าไม้หรือพืชคลุมหน้าดินบริเวณริมตลิ่ง
2. ลดการพังทลายของหน้าดินด้วยการปลูกพืชคลุมดินหรือปลูกพืชแบบขั้นบันได
3. ใช้ปุ๋ยและสารเคมีในปริมาณที่เหมาะสมและถูกวิธี
4. ไม่ทิ้งสิ่งปฏิกูล เช่น น้ำเสีย ขยะ เป็นต้น ลงในดิน
5. ตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างดินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำข้อมูลมาวางแผนการบำรุงดิน
การจัดการและลดมลพิษทางอากาศ
1. ไม่เผาวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรและขยะ
2. กำจัดขยะอย่างถูกวิธี
3. ตรวจเช็คการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ที่ใช้ในการสวนยางอย่างสม่ำเสมอ
4. ตรวจสอบการปล่อยน้ำทิ้งและของเสียต่าง ๆ จากบ่อน้ำยางให้อยู่ในระดับมาตรฐาน
5. สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีการเกษตรโดยนำวัสดุเหลือใช้จากภาคเกษตรมาใช้เป็นพลังงานเพื่อลดการเผาวัสดุ
เหลือใช้จากการเกษตรในที่โล่ง